
ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเชื่อมต่อถึงกันได้ผ่านอินเทอร์เน็ต การเก็บข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดก็เปลี่ยนไปเช่นกัน จากเดิมที่ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์หรือ SD Card มาบันทึกข้อมูล ปัจจุบันมีตัวเลือกที่สะดวกและปลอดภัยมากกว่า นั่นคือ กล้องวงจรปิดแบบบันทึกภาพบนคลาวด์ (Cloud CCTV)
กล้องแบบนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความปลอดภัยสูง, ดูย้อนหลังสะดวก และไม่อยากกังวลว่าไฟล์จะหายหากอุปกรณ์โดนขโมยหรือชำรุด วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับข้อดี วิธีการทำงาน และวิธีเลือกกล้องวงจรปิดแบบ Cloud Storage ที่เหมาะกับบ้านหรือธุรกิจของคุณ
หัวข้อ
กล้องวงจรปิดแบบบันทึกภาพบนคลาวด์ คืออะไร?
กล้องวงจรปิดแบบคลาวด์ คือกล้องที่สามารถบันทึกภาพและวิดีโอขึ้นไปเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ออนไลน์แบบอัตโนมัติ (Cloud Storage) โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องบันทึกภายในบ้านหรือสำนักงาน ข้อมูลทั้งหมดจะถูกเข้ารหัสและจัดเก็บอย่างปลอดภัยบนแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการ เช่น EZVIZ, IMOU, Google Drive (ผ่านกล้องบางรุ่น), หรือระบบคลาวด์ของผู้ผลิตโดยตรง
ข้อดีของกล้องวงจรปิดบันทึกภาพบนคลาวด์
ป้องกันข้อมูลสูญหาย
ไฟล์วิดีโอจะไม่หายแม้กล้องถูกขโมยหรืออุปกรณ์ถูกทำลาย เพราะข้อมูลเก็บไว้บนคลาวด์ที่ปลอดภัย
ดูย้อนหลังได้ทุกที่ทุกเวลา
คุณสามารถเข้าถึงวิดีโอที่บันทึกไว้ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ได้ทุกที่ เพียงมีอินเทอร์เน็ต
ไม่มีความยุ่งยากเรื่องอุปกรณ์จัดเก็บ
ไม่ต้องห่วงว่า SD Card จะเต็ม หรือ HDD จะพัง เพราะระบบคลาวด์จะจัดการพื้นที่ให้โดยอัตโนมัติ
รองรับการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์
เมื่อมีการเคลื่อนไหวผิดปกติ กล้องจะส่งแจ้งเตือนทันทีพร้อมแนบภาพหรือคลิปขึ้นคลาวด์ให้คุณดูได้ทันที
เข้ารหัสและรักษาความปลอดภัยข้อมูล
ข้อมูลจะถูกเข้ารหัสแบบ SSL หรือ AES ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับระบบธนาคาร ช่วยให้มั่นใจว่าภาพไม่รั่วไหล
ตัวอย่างกล้องวงจรปิดแบบบันทึกบนคลาวด์ยอดนิยม
EZVIZ C6N Cloud Camera
- ความละเอียด: Full HD 1080p
- มี Night Vision และ Smart Tracking
- รองรับ Cloud Storage ของ EZVIZ
- แอปดูภาพย้อนหลังได้ฟรี 7 วัน (แล้วแต่แพ็กเกจ)
- ราคาโดยประมาณ: 1,500 – 2,200 บาท
IMOU Ranger 2C Cloud Edition
- ความละเอียด: Full HD
- แจ้งเตือนการเคลื่อนไหวแบบ AI
- บันทึกคลิปขึ้น IMOU Cloud
- มีระบบเสียงสองทาง
- ราคาโดยประมาณ: 1,300 – 1,900 บาท
TP-Link Tapo C200
- กล้องหมุนได้ 360°
- รองรับ Cloud Storage (เสียค่าบริการรายเดือน)
- ใช้งานง่ายผ่านแอป Tapo
- เหมาะกับบ้านขนาดเล็ก – กลาง
- ราคาโดยประมาณ: 1,000 – 1,500 บาท
การเลือกกล้องวงจรปิดแบบคลาวด์ให้เหมาะกับคุณ
- เลือกระบบคลาวด์ที่น่าเชื่อถือ เลือกกล้องจากแบรนด์ที่มีบริการ Cloud Storage ของตัวเอง หรือรองรับระบบคลาวด์ที่มีชื่อเสียง เช่น AWS, Google Cloud, หรือ Microsoft Azure
- ตรวจสอบนโยบายเก็บข้อมูลย้อนหลัง บางผู้ให้บริการให้บันทึกฟรี 3–7 วัน หากต้องการเก็บนานกว่านั้น อาจมีค่าบริการรายเดือน
- รองรับการเข้าถึงแบบหลายอุปกรณ์ ควรเลือกกล้องที่คุณสามารถดูได้จากมือถือ แท็บเล็ต หรือ PC พร้อมกัน โดยไม่จำกัดอุปกรณ์
- ดูเรื่องความปลอดภัยของการเข้ารหัสข้อมูล กล้องควรมีระบบเข้ารหัส SSL/TLS และรองรับระบบล็อกอิน 2 ชั้น (2FA) เพื่อความมั่นใจ
- พิจารณาค่าใช้จ่ายรายเดือนหากจำเป็น กล้องบางรุ่นอาจมีค่าบริการสำหรับ Cloud Storage รายเดือน เช่น 60 – 150 บาทต่อเดือน แต่ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความปลอดภัยที่ได้รับ
เหมาะกับใคร?
- เจ้าของบ้านที่ไม่ต้องการเดินสายหรือวางเครื่องบันทึก
- ร้านค้า/ธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลจากหลายอุปกรณ์
- ผู้ที่เดินทางบ่อย ต้องการดูบ้าน/สำนักงานจากระยะไกล
- ผู้ใช้งานที่ต้องการบันทึกภาพแบบปลอดภัยและเรียกดูย้อนหลังได้ทุกเวลา
สรุป
กล้องวงจรปิดแบบบันทึกภาพบนคลาวด์ คือทางเลือกที่ทันสมัยและปลอดภัยสำหรับการดูแลบ้านหรือธุรกิจในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถเข้าถึงภาพเหตุการณ์ได้แบบเรียลไทม์ และไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูลหายหรืออุปกรณ์เสีย ด้วยระบบที่บันทึกและจัดเก็บข้อมูลแบบอัตโนมัติบนคลาวด์
หากคุณกำลังมองหากล้องวงจรปิดที่ ติดตั้งง่าย ปลอดภัย และใช้งานสะดวก กล้องระบบคลาวด์คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ติดต่อเรา
- Facebook : ช่างรังรอง CCTV&Network
- LINE : Rungrong
- เบอร์โทร : 080-365-9997
- เว็บไซต์ : rungrong.com

