Customise Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorised as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyse the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customised advertisements based on the pages you visited previously and to analyse the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

IoT คืออะไร? และส่งผลต่อการพัฒนาระบบเครือข่ายในอนาคตอย่างไร?

IoT คืออะไร? และส่งผลต่อการพัฒนาระบบเครือข่ายในอนาคตอย่างไร?
IOT-cover

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำไปไกล IoT (Internet of Things) หรือ “อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง” กลายเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่เข้ามาเปลี่ยนโลกธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวันอย่างสิ้นเชิง อุปกรณ์นับล้านชิ้นถูกเชื่อมโยงเข้าหากันผ่านอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน รถยนต์ ไปจนถึงเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม

การเติบโตของ IoT จึงส่งผลโดยตรงต่อ “การพัฒนาระบบเครือข่ายในอนาคต” ที่ต้องรองรับอุปกรณ์จำนวนมหาศาลและข้อมูลมหาศาลที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า IoT คืออะไร? และส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาระบบเครือข่ายในอนาคตอย่างไรบ้าง?

IoT (Internet of Things) คืออะไร?

IoT (Internet of Things) คือ เครือข่ายของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและสั่งการกันแบบเรียลไทม์ โดยไม่จำเป็นต้องมีมนุษย์ควบคุมตลอดเวลา

ตัวอย่างอุปกรณ์ IoT ที่เราพบเห็นในชีวิตประจำวัน เช่น

  • สมาร์ทโฟน
  • นาฬิกาอัจฉริยะ (Smartwatch)
  • เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Home)
  • กล้องวงจรปิด (CCTV)
  • ระบบเซ็นเซอร์ในอุตสาหกรรม
  • รถยนต์ไร้คนขับ

IoT มีบทบาทต่อการพัฒนาระบบเครือข่ายอย่างไร?

1. ปริมาณอุปกรณ์เชื่อมต่อเพิ่มขึ้นมหาศาล

การเติบโตของ IoT ทำให้จำนวนอุปกรณ์เชื่อมต่อบนเครือข่ายเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด จากเดิมที่เชื่อมต่อแค่คอมพิวเตอร์และมือถือ ปัจจุบันทุกสิ่งรอบตัวล้วนเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ ส่งผลให้เครือข่ายต้องออกแบบให้รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันจำนวนมาก

2. การส่งข้อมูลแบบ Real-Time ต้องเร็วและเสถียร

IoT หลายระบบ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ หรือระบบ Smart Healthcare ต้องการความเร็วในการส่งข้อมูลระดับเสี้ยววินาที (Low Latency) เพื่อประมวลผลแบบเรียลไทม์ เครือข่ายยุคใหม่จึงต้องรองรับการส่งข้อมูลความเร็วสูงและลดความหน่วง (Latency) ให้ได้มากที่สุด

3. รองรับ Big Data และ Edge Computing

IoT ทำให้เกิดข้อมูลจำนวนมหาศาล (Big Data) ทุกวินาที ระบบเครือข่ายในอนาคตจึงต้องออกแบบให้รองรับการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนา Edge Computing ที่ประมวลผลข้อมูลใกล้กับแหล่งกำเนิดข้อมูล เพื่อลดภาระเครือข่ายและเพิ่มความเร็วในการทำงาน

4. ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity)

ยิ่งอุปกรณ์เชื่อมต่อมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เครือข่ายในอนาคตจึงต้องพัฒนาระบบป้องกันการแฮก ข้อมูลรั่วไหล และมัลแวร์ที่อาจแฝงมากับอุปกรณ์ IoT ได้

เทคโนโลยีเครือข่ายที่จะขับเคลื่อน IoT ในอนาคต

5G และ 6G

  • เพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูล
  • ลด Latency เหลือเพียงเสี้ยววินาที
  • รองรับอุปกรณ์ IoT ได้จำนวนมหาศาลต่อพื้นที่

Cloud Computing และ Edge Computing

  • เพิ่มศักยภาพในการจัดเก็บและประมวลผล Big Data
  • ลดภาระการส่งข้อมูลไปยังศูนย์กลางทั้งหมด
  • ทำงานรวดเร็วขึ้น ใกล้แหล่งกำเนิดข้อมูล

AI และ Machine Learning ด้านความปลอดภัย

  • ตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามแบบเรียลไทม์
  • วิเคราะห์พฤติกรรมผิดปกติของอุปกรณ์ IoT
  • ช่วยให้เครือข่ายมีความปลอดภัยสูงขึ้น

ตัวอย่าง IoT ที่เปลี่ยนอนาคตระบบเครือข่าย

Smart City

ระบบไฟจราจรอัจฉริยะ, กล้องวงจรปิด, ระบบตรวจจับมลพิษ ทุกอย่างเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์บนเครือข่ายเดียวกัน

Healthcare IoT

เครื่องมือแพทย์อัจฉริยะ ตรวจวัดชีพจร ความดัน ส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วย

Industrial IoT (IIoT)

เครื่องจักรในโรงงานเชื่อมต่อกับระบบกลาง ประมวลผลข้อมูลแบบ Real-Time ลดของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

สรุป IoT เปลี่ยนอนาคตระบบเครือข่ายอย่างไร?

IoT คือแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ เครือข่ายในอนาคตต้องพัฒนาไปอีกขั้น ไม่ใช่แค่รองรับอุปกรณ์มากขึ้น แต่ต้องเร็ว เสถียร และปลอดภัยมากกว่าเดิม โลกจะเปลี่ยนจากการเชื่อมต่อแค่ “คนกับคน” ไปสู่ “ทุกสิ่งเชื่อมต่อกับทุกสิ่ง”

ธุรกิจหรือองค์กรใดที่มองเห็นความสำคัญของ IoT และเตรียมพร้อมพัฒนาระบบเครือข่ายให้รองรับเทคโนโลยีนี้ได้ก่อน ย่อมได้เปรียบในโลกยุคดิจิทัลที่ทุกวินาทีหมายถึงโอกาสทางธุรกิจ

ติดต่อเรา