
หากคุณต้องการเฝ้าระวังความปลอดภัยบริเวณภายนอกบ้าน อาคาร หรือพื้นที่รอบธุรกิจ กล้องวงจรปิดสำหรับการใช้งานกลางแจ้งคืออุปกรณ์สำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะกล้องทั่วไปอาจไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น แดดจัด ฝนตกหนัก หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ แต่ กล้องวงจรปิดที่รองรับการใช้งานกลางแจ้ง นั้นออกแบบมาให้ทนทาน แข็งแรง และพร้อมทำงานตลอด 24 ชั่วโมงไม่ว่าจะสภาพอากาศใดก็ตาม
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับคุณสมบัติเด่นของกล้องกลางแจ้ง ข้อดี จุดติดตั้งที่แนะนำ วิธีการเลือกซื้อ และตัวอย่างกล้องยอดนิยมในตลาด
หัวข้อ
กล้องวงจรปิดกลางแจ้ง คืออะไร?
กล้องวงจรปิดที่รองรับการใช้งานกลางแจ้ง หรือที่เรียกว่า Outdoor CCTV เป็นกล้องที่ได้รับการออกแบบให้สามารถใช้งานได้ในพื้นที่ที่ไม่มีหลังคาคลุม หรือมีความเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น แสงแดด ฝน ลม ฝุ่น และความชื้นสูง โดยมักจะมาพร้อมคุณสมบัติพิเศษ เช่น:
- มาตรฐานกันน้ำ–กันฝุ่น (IP65, IP66, IP67)
- โครงสร้างกล้องที่แข็งแรง ทนต่อการกระแทก
- ระบบ Night Vision หรือ Infrared สำหรับการใช้งานกลางคืน
- การปรับภาพอัตโนมัติตามสภาพแสง
ข้อดีของกล้องวงจรปิดกลางแจ้ง
ทนแดด ทนฝน ทนฝุ่น ใช้งานได้ทุกฤดู
เหมาะกับสภาพอากาศในประเทศไทยที่ร้อนชื้นและมีฝนตกชุก
ติดตั้งได้หลากหลายจุดรอบอาคาร
สามารถติดที่กำแพง ประตูรั้ว ลานจอดรถ ทางเดิน หรือแม้กระทั่งเสาไฟ
มองเห็นในเวลากลางคืนชัดเจน
กล้องรุ่นใหม่มาพร้อม Night Vision หรือ Color Night Vision ทำให้เห็นภาพได้แม้ในที่มืดสนิท
เพิ่มความปลอดภัยรอบพื้นที่สำคัญ
ช่วยยับยั้งการโจรกรรม การบุกรุก หรือความเสียหายจากบุคคลที่ไม่พึงประสงค์
รองรับการเชื่อมต่อ WiFi / LAN
กล้อง Outdoor รุ่นใหม่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายแบบไร้สาย ทำให้ติดตั้งได้ง่ายแม้ไม่มีสาย LAN
จุดติดตั้งกล้องวงจรปิดกลางแจ้งที่แนะนำ
- ทางเข้าบ้าน / อาคารสำนักงาน
- ประตูรั้วและถนนหน้าบ้าน
- โรงรถ / ลานจอดรถ
- ระเบียง / หลังบ้าน / ทางเดินรอบบ้าน
- คลังเก็บของ / พื้นที่โล่งในโกดัง
- รั้วรอบขอบเขตของพื้นที่ธุรกิจหรือโรงงาน
วิธีเลือกกล้องวงจรปิดที่ใช้งานกลางแจ้งได้ดี
- มีมาตรฐาน IP65 ขึ้นไป
เลือกกล้องที่ระบุชัดว่าเป็น IP65 / IP66 / IP67 ซึ่งหมายถึงสามารถกันน้ำและฝุ่นได้ในระดับที่เหมาะสมกับสภาพกลางแจ้ง - มีระบบอินฟราเรด / Night Vision
จำเป็นสำหรับการดูภาพในเวลากลางคืน ควรเลือกกล้องที่มีระยะ IR อย่างน้อย 20 เมตรขึ้นไป - วัสดุทนทาน กันกระแทก
กล้องควรทำจากวัสดุที่ทนต่อสภาพอากาศและแรงกระแทก เช่น อลูมิเนียมอัลลอยด์ หรือพลาสติก ABS เกรดอุตสาหกรรม - ความคมชัดระดับ Full HD หรือ 4K
สำหรับการเฝ้าระวังในพื้นที่กว้างควรเลือกกล้องที่มีความคมชัดสูง เพื่อซูมดูรายละเอียดได้ชัดเจน - รองรับการเชื่อมต่อผ่านแอปมือถือ
เพื่อให้สามารถตรวจสอบสถานการณ์ได้แบบเรียลไทม์จากทุกที่
ตัวอย่างกล้องวงจรปิดกลางแจ้งยอดนิยม
EZVIZ C3WN Outdoor WiFi Camera
- ความละเอียด Full HD 1080p
- รองรับ WiFi + LAN
- มาตรฐานกันน้ำ IP66
- Night Vision ระยะ 30 เมตร
- ดูผ่านแอป EZVIZ Cloud ได้
- ราคาโดยประมาณ: 1,500 – 2,000 บาท
TP-Link Tapo C310 Outdoor Camera
- ความละเอียด 3MP
- มีโหมดตรวจจับความเคลื่อนไหว
- มาตรฐาน IP66
- มีระบบเสียงสองทาง
- ราคาโดยประมาณ: 1,200 – 1,600 บาท
Hikvision DS-2CE16D0T-ITPF
- กล้อง Bullet Outdoor 2MP
- มี IR Night Vision
- รองรับมาตรฐานกันน้ำ IP66
- ใช้ได้กับเครื่องบันทึก DVR
- ราคาโดยประมาณ: 1,000 – 1,400 บาท
สรุป
กล้องวงจรปิดที่รองรับการใช้งานกลางแจ้ง ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการปกป้องพื้นที่ภายนอกของบ้านหรือธุรกิจอย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นฝนตก แดดออก หรือในเวลากลางคืน กล้องประเภทนี้สามารถทำงานได้อย่างมั่นคงและให้ภาพที่ชัดเจน ทั้งยังช่วยให้คุณสามารถควบคุมความปลอดภัยจากระยะไกลได้ผ่านมือถือ
หากคุณกำลังมองหาวิธีเฝ้าระวังรอบบ้านหรือพื้นที่ธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า กล้องวงจรปิดกลางแจ้ง คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้าม
ติดต่อเรา
- Facebook : ช่างรังรอง CCTV&Network
- LINE : Rungrong
- เบอร์โทร : 080-365-9997
- เว็บไซต์ : rungrong.com

